Replace CPU notebook computer around 5 munite.

CPU Intel Generation 3

        และแล้วทางบริษัทอินเทล ก็ได้ออกซีพียูในตระกูล คอร์ ออกมาอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว และเพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้องและตรงกับความเร็วที่ต้องการ ทางเราจึงได้รวมรวมข้อมูลซีพียูอินเทล ตระกูล คอร์ รุ่นที่ 3 มาให้ ในรูปแบบตาราง เพื่อให้เปรียบเทียบได้ง่ายๆ และสามารถตรวจสอบได้สะดวกยิ่งขึ้น

อะไรคือข้อสังเกตว่า ซีพียู Core Processorsตัวไหนเป็นเจนเนอเรชั่น 3

ซีพียู รุ่นไหนเหมาะสำหรับการทำงานอะไร

·         CPU  Core i3 เหมาะสำหรับงานทั่วไป

·         CPU Core i5 เหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์ระดับ HD และการตกแต่งภาพ

·         CPU Core i7 เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์ และสร้างสื่อมัลติมีเดีย

เปรียบเทียบซีพียูรุ่นต่างของอินเทล เจนเนอเรชั่น 3

CPU	หมายเลข CPU	กี่ core /Threads	ความถี่	ความถี่สูงสุด Turbo	ความถี่ กราฟฟิก	รองรับความเร็ว DDR3	L3 Cache
Core i7 (รุ่น Extream) และมีประสิทธิภาพสูงสุด	I7-3920XM	4/8	2.90	3.80	650/1300	1600	8MB
Core i7	I7-3667U	2/4	2.00	3.20	350/1150	1600	4MB
	I7-3517U	2/4	1.90	3.00	350/1150	1600	4MB
	I7-3820QM	4/8	2.70	3.70	650/1250	1600	8MB
	I7-3720QM	4/8	2.60	3.60	650/1250	1600	6MB
	I7-3612QM	4/8	2.10	3.10	650/1100	1600	6MB
	I7-3610QM	4/8	2.13	3.30	650/1100	1600	6MB
	I7-3520M	2/4	2.90	3.60	650/1250	1600	4MB
Core i5	I5-3317U	2/4	1.70	2.60	350/1050	1600	3MB
	I5-3360M	2/4	2.80	3.50	650/1200	1600	3MB
	I5-3320M	2/4	2.60	3.30	650/1200	1600	3MB
	I5-3210M	2/4	2.50	3.10	650/1100	1600	3MB
Core i3	I3-3217U	2/4	1.80	-	350/1050	1600	3MB
	I3-3110M	2/4	2.40	-	650/1000	1600	3MB

สรุปข้อมูลจากตารางเพิ่มเติม

·         หมายเลขซีพียู ไม่ได้เป็นตัววัดประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์

·         ซีพียู Core i3 ยังไม่ได้รองรับ Turbo Boost เช่นเดิม

·         Turbo Boost Technology 2.0

·         ข้อสังเกตหมายเลขซีพียู เจนเนอเรชั่น 3 หลังคำว่า i3, i5 และ i7 จะมีตัวเลขขึ้นต้นด้วยหมายเลข 3 ทั้งหมด

·         ซีพียู Core i7 ย่อมทำงานได้ดีกว่า Core i5 และ Core i3

·         ซีพียู Core i5 ทำงานได้เร็วกว่า Core i3 แต่ช้ากว่า Core i7

What is USB 3.0 ?

   

        สำหรับ USB หรือ ?Universal Serial Bus? นั้นมีต้นกำหนิดตั้งแต่ปีค.ศ. 1996 ซึ่งช่วงนั้น USB นั้นได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ สมาคมหรือบริษัทไม่ว่าจะเป็น Intel, Compaq, หรือ Microsoft จนได้มาเป็นสายการเชื่อมสากลที่มีชื่อว่า USB 1.1 ที่ทุกสื่อยอมรับเมื่อปีค.ศ. 1998 โดยมีความเร็วในการแลกเปลียนข้อมูลสูงสุด 12 Mbps แล้วหลังจากนั้นก็มีการพัฒนาการมาเรื่อยๆ จนล่าสุดนี้มีการเปิดตัว USB 3.0 ให้เห็นกันเมื่อปีค.ศ. 2007 ที่ผ่านมา

ส่วนวันนี้เราจะมาเรียนรู้ขั้นต้นกันใหม่เกี่ยวกับ USB 3.0 กันหน่อยนะครับ ซึ่งตอนนี้ถึงแม้จะไม่มีตัวจริงกันออกมาให้ใช้กันจาก Intel ก็ตาม แต่ก็ได้เห็นอุปกรณ์ USB 3.0 ออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ ไม่มีหยุด ส่วน USB 3.0 คืออะไรแล้วทำไมต้อง USB 3.0 เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

?

ทำไมถึงต้อง USB 3.0:

ความเร็ว ? ตามหลักแล้ว USB 3.0 นั้นจะมีความเร็วสูงกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่าโดยจะมีความเร็วในการแลกเปลียนข้อมูลสูงสุดถึง 4.8 Gbps ซึ่งสูงกว่า USB 2.0 ที่มีความเร็วในการแลกเปลียนข้อมูลสูงสุด 480 Mbps

การเชื่อมต่อของช่องที่เพิ่มขึ้นภายในของตัวสาย ? ซึ่งจะทำให้ USB 3.0 นั้นสามารถทำการอ่านข้อมูลได้ไปพร้อมๆ กับเขียนข้อมูลในคราวเดียวกัน ซึ่งต่างกับ USB 2.0 ที่ต้องทำการอ่านหรือเขียนได้ทีละอย่าง

ประหยัดพลังงานมากกว่า ? USB 3.0 นั้นได้ลดพลังงานการใช้งานอุปกรณ์น้อยลงจาก 4.4 V เหลือ 4 V แต่เพิ่มความเร็วในการส่งพลังงานให้เยอะขึ้นจาก 500 mA เป็น 900 mA ซึ่งจะทำให้การชาร์ตอุปกรณ์ที่สนับสนุน USB 3.0 ที่เสียบผ่านสาย USB 3.0 ชาร์ตเร็วขึ้นด้วย

มี Backward Compatible ? หรือการสนับสนุนอุปกรณ์รุ่นก่อนเช่น USB 2.0 ซึ่งยังสามารถทำการเสียบอุปกรณ์ USB 2.0 เข้า USB 3.0 ได้แล้วยังเสียบอุปกรณ์ USB 2.0 เข้า USB 3.0 ได้อีกด้วยเช่นกัน โดยจะมีความเร็วแค่เท่าของ USB 2.0

ภาพตัวอย่างการเชื่อมต่อของช่องที่เพิ่มขึ้นภายในของตัวสาย:

จะสังเกตได้นะครับว่าตัวช่องเล็กๆ ของสาย USB 3.0 นั้นได้เพิ่มมาเป็น 9 ช่องจาก 4 ช่องที่เห็นกันทั่วไปใน USB 2.0 ซึ่งสามารถทำให้การแลกเปลียนข้อมูลใน USB 3.0 นั้นทำการอ่านกับเขียนได้พร้อมๆ กัน

ราคากับอุปกรณ์ USB 3.0 ที่จะมีให้เห็นกันในอนาคต:

ล่าสุดนี้ก็มีชิพ USB 3.0 ที่มีชื่อว่า ?NEC? จากกลุ่มผู้สนับสนุน USB 3.0 (ไม่ใช่ Intel) ให้เห็นกันบ้างแล้วนะครับใน Mainboard บางตัวจาก ASUS กับ Gigabyte ที่มีราคาตั้งแต่ $135 (หรือประมาณ 4500 บาท) จนถึง $350 (หรือประมาณ 12000 บาท) เลยทีเดียว แต่ตัวที่จะมาจาก Intel นั้นก็มีการคาดการณ์กันไว้ว่าจะได้เห็นกันจริงๆ ก็คงเป็นปี 2011 นู้นเลยละครับ

ส่วนอุปกรณ์ USB 3.0 ก็มีออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ เลยนะครับ ยกตัวอย่างเช่น USB 3.0 Flash Drive จาก Super Talent ที่มีความเร็วในการแลกเปลียนข้อมูลขั้นต่ำสูงถึง 320 MB/วินาที แต่มีราคาสูงถึง $400 (หรือประมาณ 13600 บาท) เลยทีเดียวสำหรับขนาด 64GB

สิ่งที่ควรระวังกันนิดหน่อยตอนนี้ก็เห็นจะเป็นการสนับสนุน Software ของ USB 3.0 ที่ไม่มีมาในแม้กระทั่ง OS (ระบบปฏิบัติการ) ล่าสุดอย่าง Windows 7 ของ Microsoft ซึ่งควรระวังกันไว้เล็กน้อยด้วย

การใช้งานจริง:

อย่างที่รู้กันอยู่นะครับ ว่าการใช้งานจริงของอุปกรณ์นั้นๆ มักจะต่ำกว่าที่ระบุไว้อยู่เสมอ ซึ่งความเร็วในการแลกเปลียนข้อมูลของ USB 2.0 นั้นระบุไว้ว่าจะมีความเร็วสูงถึง 480 Mbps (หรือ 60 MB/วินาที) แต่ตอนออกมาใช้งานจริงกลับเหลือแค่ 280 Mbps (หรือ 35 MB/วินาที) ซึ่งต่ำกว่าที่ระบุมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ได้มีการคาดการณ์เหมือนกันว่า USB 3.0 นั้นอาจมีเร็วตอนใช้งานจริงแค่ 1.2 Gbps (หรือ 150 MB/วินาที)

ซึ่งผมว่าของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่เกี่ยวกับพวก Host Controller ของ Mainboard หรือเครื่องคอมพิวเตอร์กับโน้ตบุ๊คของแต่ละคนด้วยแล้วอาจเกี่ยวกับพวก Driver ต่างๆ ด้วย ซึ่งของแบบนี้ถ้าไม่ลองเห็นดูกับตาก็คงไม่รู้หรอกนะครับ ซึ่งท้ายสุดนี้ก็ขอขอบคุณคนที่อ่านบทความเล็กๆ น้อยๆ นี้มาจนจบได้แล้วหวังว่าจะได้ใช้สิ่งที่เรียกว่า USB 3.0 กันเร็วๆ นะครับ

ที่มา – TechSpot

NVIDIA GeForce GT 630M

        NVIDIA GeForce GT 630M นั้นถือว่าเป็นการ์ดจอตัวใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวมาสำหรับ NVIDIA GeForce 600 Series ซึ่งสำหรับเจ้า GT 630M ตัวนี้นั้นเป็นการ์ดจอที่อยู่ในระดับกลางสูง โดยรุ่นนี้เองจะแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่นย่อย เวอร์ขั่นแรกถูกพัฒนาต่อมาจาก NVIDIA GeForce GT 540M โดยใช้ชิป GF108 มี Shader อยู่ที่ 96 ส่วนอีกเวอร์ชั่นหนึ่งจะเป็น GT 630M ที่ถูกพัฒนาต่อจาก NVIDIA GeForce GT 550M โดยตัวนี้จะมี Shader ที่ 144 ใช้ชิป GF106/GF116 ทั้งสองเวอร์ขั่นจะมี Memory Interface ที่ 128-bit GDDR3 โดยการ์ดจอรุ่น NVIDIA GeForce GT 630M นี้นั้นเป็นการใช้สถาปัตยกรรมของ Fermi ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดจอตัวนี้นรองรับเทคโนโลยี DirectX 11 และ OpenGL 4.0

สถาปัตยกรรม

GF108 เป็นชิปที่เปิดตัวครั้งแรกกับอดีตการ์ดจอเคยแรงในรุ่นของ GT 435M โดยมันมีความสัมพันธ์กับชิป GF100 ที่ใส่ในการ์ดจอตัว High Ends รุ่น GTX 460M ซึ่งผลิตออกมาเพื่อรองรับ Application ในระดับของ Professional แต่ชิป GF108 นั้นที่มาพร้อมกับ 96 Shader Memory Interface ที่ 128-bit GDDR3 ตัวนี้ผลิตและดัดแปรงออกมาเพื่อลูกค้าทั่ว ๆ ไป สำหรับฟีเจอร์เด่น ๆ ของรุ่นนี้ก็จะเป็นพวก Shader ที่มากขึ้น 3×16 มี Texture 8 unit และ SFUs per streaming multi-processor (SM) ซึ่งตอนนี้เองนั้น เราจะเห็นได้เลยว่า NVIDIA มีการเน้นไปที่ Shader มากขึ้น ซึ่งในทางทฤษฎีเอง Shader ที่มากกว่าก็จะนำมาใช้ประโยชน์ให้ประสิทธิภาพที่มากขึ้นไป

ประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาที่ได้จาก GT 630M เวอร์ชั่น GF108 นั้นจะมีความใกล้เคียงกับ GT 540M และ GT 630M เวอร์ชั่น GF106/GF116 จะมีความใกล้เคียงกับ GT 550M ซึ่งมันสามารถที่จะเล่นเกมกราฟิกดี ๆ ในปี 2011 ได้โดยการตั้งค่ากราฟิกในระดับกลาง – สูง แต่อาจจะมีบางเกมอย่างเช่น Battlefield 3, Anno 2070 และ Skyrim ที่อาจจะต้องปรับตั้งคาในระดับต่ำ

ฟีเจอร์

ชิปการ์ดจอในรหัสของ GF104/106/108 นั้นล้วนแต่รองรับเทคโนโลยี Bitstream HD Audio (Blu-ray) ผ่าน HDMI อีกทั้งมันยังสามารถโอนถ่ายข้อมูลเสียงจากเทคโนโลยี Dolby True HD และ DTS-HD แบบไม่เสียคุณภาพของเสียงเลย นอกจากนั้นNVIDIA GeForce GT 630M นั้นได้นำเสนอเทคโนโลยี PureVideo HD ซึ่งมันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการถอดรหัสโดยใช้การ์ดจอเป็นหลัก โดยไฟล์ที่รองรับได้แก่ MPEG-1, MPEG-2, MPEG-4 Part 2 (เช่น DivX และ XDiv), VC-1/WMV9, และ H.264 การใช้ PureVideo HD นั้นทำให้สามารถที่จะถอดรหัสไฟล์ 1080p ได้ 2 ไฟล์พร้อม ๆ กันอีกด้วย อีกทั้งมันยังรองรับCUDA, OpenCL และ DirectCompute 2.1 อีกด้วย โดยมันจะประมวลผลกราฟิกแทน CPU และสามารถทำงานได้เร็วกว่า ส่วนฟีเจอร์เฉพาะตัวอย่าง PhysX ก็สามารถประมวลผลในเกมดัง ๆ ได้อยู่ในระดับกลาง แค่นั้นยังไม่พอ สำหรับเทคโนโลยีการแสดงผล 3D ที่กำลังได้รับความนิยมสูงซึ่งมันคือ NVIDIA 3D Vision เจ้า NVIDIA GeForce GT 630M ก็สามารถทำได้แต่ก็คงไม่ได้ให้ความแรงอะไรมากนัก อาจจะเน้นไปที่การนำไปดูหนังมากกว่าเล่นเกม และท้ายสุด GT 630M มีระบบจัดการเรื่องของพลังงานอย่าง NVIDIA Optimus ที่ใครหลายคนบ่น ๆ กันว่ามันคอขวดหรือเปล่า แต่ล่าสุดเทคโนโลยีนี้ต้องยอมรับว่ามันถูกพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สเปค

ผลการทดสอบโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพ

Cinebench R11.5 OpenGL

ทดสอบกลุ่มของคำสั่งหรือฟังก์ชั่นการประมวลผล สำหรับการกำหนดภาพ 2มิติ และ 3 มิติ

3DMARK06

ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง เรื่องการแสดงผลของภาพ 3มิติ เป็นการแสดงผลในรูปแบบของเกมหรืองาน 3มิติอื่นๆ

DMark 11 ( Resolution 1280×720)

คะแนน 3Dmark11 โปรแกรมเทสตัวใหม่ที่ใช้ DirectX 11

ผลการทดสอบการเล่นเกม

Advance Setting  – 1366×768 , Option : Gamer , DirectX11

Advance Setting 1360 x 768, Anti-Aliasing : Off , DirectX10, Motion Blur : Off, Shadow : High, Texture :High, Quality :High

Advance Setting 1366×768, Anti-Aliasing : Off , DirectX10, Motion Blur : Low, Soft&Self Shadow :Low, 

Texture :Default, Model&Background Quality : High, Particlse : Mid

Advance Setting – 1366×768, Anti-Aliasing : 2X MsAA, DirectX11, Choose Preset : All Medium

บทสรุป

สำหรับการ์ดจอตัวใหม่ล่าสุดจากค่ายเขียวอย่าง NVIDIA GeForce GT 630M นั้นถูกพัฒนาและปรับปรุงมาจาก GT 540M แต่ทำคะแนนและความสามารถที่ออกมานั้นใกล้เคียงกับ GT 550M เลยครับ อีกทั้งยังทำคะแนนได้เทียบเท่าหรือดีกว่า AMD Radeon HD 6730M จากค่ายคู่ต่อสู้ด้วยครับ ก็ไม่รู้นะครับว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ค่ายแดงจะออกการ์ดจอมากินตลาดคืนหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้า NVIDIA GeForce GT 630M ขายแล้ว ก็ถือว่าขายก่อนได้เปรียบไปแล้วครับ …

ข้อมูลทั้งหมดนั้นมาจาก Notebook4Game.com